ประโยชน์ของเมือกหอยทากกับความงาม

ประโยชน์ของเมือกหอยทากกับความงาม

     ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลากหลายยี่ห้อได้นำ “เมือกหอกทาก” เข้ามาเป็นส่วนผสมพร้อมกับเป็นจุดขายให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งคงจะทำให้คุณสาวๆหลายๆคนเริ่มเกิดความสงสัยว่า แล้วเจ้าเมือกหอยทากนั้นมันมีดีอะไร หลายๆผลิตภัณฑ์ถึงต้องนำมาเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงผิว แล้วมีอันตรายต่อผิวพรรณหรือเปล่า?

สำหรับบทความในวันนี้ จะเป็นเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับครีมหอยทาก โดยที่ไม่ได้เจาะจงผลิตภัณฑ์ตัวใดเป็นพิเศษ พร้อมกับเจาะลึกกันว่า ครีมหอยทาก มีมาที่ไปอย่างไร มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณ และมีผลตอบรับจากคุณสาวๆที่เคยทดลองใช้เป็นอย่างไรกันบ้าง

ความเป็นมาของการใช้เมือกหอยทากในการเสริมความงาม

ในประเทศแรกที่มีการค้นพบว่า เมือกหอยทาก สามารถนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณได้คือในประเทศชิลี เมื่อพบว่า คนงานจากฟาร์มเลี้ยงหอยทาก ที่ทำหน้าที่ในการขนหอยทากไปให้ร้านอาหารฝรั่งเศสเป็นประจำทุกวันมีผิวของมือที่นุ่มน่าสัมผัส และร่องรอยบาดแผลที่มือก็สามารถหายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม  ทำให้นำไปสู่ความสงสัยและการวิจัยหาสรรพคุณของสารในเมือกหอยทากขึ้น

เมือกหอยทากช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างไร

 เมือกหอยทาก (Snail Mucus) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Helix Aspersa Miller Glycoconjugates. ซึ่งจากการวิจัยทำให้พบว่า ผิวของหอยทากและมนุษย์มีองค์ประกอบที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ปริมาณของคอลลาเจนและอิลาสตินเองก็มีความคล้ายคลึงกัน

เมือกของหอยทาก ที่นำมาทำการสกัดลงเป็นส่วนประกอบในครีมหอยทาก ก็คือเมือกคราบขาวๆ ที่เรามักจะเห็นอยู่บนเส้นทางที่หอยทากทำการเดิน ซึ่งเจ้าเมือกนี้จะช่วยปกป้องส่วนที่สัมผัสพื้นในขณะที่หอยทากทำการเดินนั่นเอง

เมื่อหอยทากเจอสภาวะที่เสี่ยงต่ออันตราย จะทำการผลิตเมือกออกมา ซึ่งในเมือกของมันจะเต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารต่อต้านการอักเสบ สารปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน เป็ปไทด์ เอ็มไซต์และสารติดต่อกับเซลล์ผิว ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ของเมือกหอยทากในการบำรุงผิว มีดังต่อไปนี้

– Allantoin เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบและระคายเคืองของผิว นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเซลล์ผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ควบคุมความมันของใบหน้า

– Gluconic Acid มีคุณสมบัติในการช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควบคุมความมันของผิว

– Collagen และ Elastin มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล กระชับเต่งตึง และช่วยในเรื่องความยืดหยุ่นของผิว

– Protein มีคุณสมบัติเป็นอาหารให้กับผิว ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

– Vitamin A,C,E ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

– AHA ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควบคุมความมันของผิว

นอกจากนี้ เมือกหอยทากจะอยู่คู่กับ Chondroitin Sulfate ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการสร้างและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว เมือกหอยทากยังมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงได้มีการนำเมือกหอยทางเข้ามาใช้เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิว จนกระทั่งกลายมาเป็นครีมเมือกหอยทากหลากหลายยี่ห้อในปัจจุบันนั่นเอง

เมือกหอยทาก อันตรายหรือเปล่า

นายแพทย์ปณัฐ โอประเสริฐสวัสดิ์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเมือกหอยทากว่า คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้สารสกัดจากเมือกหอยทากนัก เนื่องจากหอยทากสำหรับคนไทยดูจะเป็นสัตว์ที่ทำอันตรายให้มากกว่าข้อดี

ในต่างประเทศ หอยทาก ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์อย่างมากขึ้นอยู่กับชนิดของหอยทาก โดยเฉพาะเมือกหอยทากได้รับการยอมรับว่ามีสรรพคุณในการช่วยบำรุงผิว

ในประเทศเกาหลีใต้ มีการใช้สารสกัดจากหอยทากในการเสริมความงามกันอย่างแพร่หลาย หอยทากที่นำใช้เป็นสารสกัดเพื่อบำรุงผิวพรรณต้องมาจากหอยทากเลี้ยงในเขตจังหวัดกัมซาน แคว้นชุงนัม ซึ่งได้รับการรับรองว่าสะอาดและปลอดภัย การสกัดเมือกหอยภาพเข้าไปเป็นส่วนผสมของครีม ต้องทำในระยะเวลา 10 วัน หลังจากที่หอยทากทำการปล่อยเมือกออกมา